เดือนนี้จะมารีวิวเรื่อง “The Sister Grimms” หรือชื่อไทยคือ
“นักสืบเทพนิยาย” ผู้เขียน: Michael Buckly เราเดาว่าใครหลายๆคนที่เป็นแฟนพันธ์แท้สนพ.นานมีบุ๊คหรือเป็นแฟนตัวยงของนิยายแนวFairy Taleน่าจะรู้จักเรื่องนี้กันเป็นอย่างดีเพราะวรรณกรรมเยาวชนชุดนี้มีคำโปรยที่ค่อนข้างน่าสนใจ(บอกเลยแค่ชื่อก็กินขาดแล้ว)
สามารถดึงดูดให้นักอ่านหยิบขึ้นมาเปิดดูและอ่านมันได้ง่ายๆ อีกทั้งยังมีจุดเด่นหลายจุดที่ทำให้นักอ่านอย่างเราประทับใจ
แล้วก็มีการหยอดมุกตลกลงไป
มีการดัดแปลงภาษาแปลกๆ มีการสอดแทรกความรักวัยรุ่นน่ารักๆแล้วก็ยังมีข้อคิดดีๆที่แฝงเข้ามาในเนื้อเรื่องอีกต่างหาก
สิ่งที่เราประทับใจจากนิยายเรื่องนี้...
1.อย่างแรกที่เราอยากชมมากมายคือพล็อตของเรื่องนี้ เพราะผู้เขียนได้วางพล็อตที่เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ซ่อนปมของเรื่องได้แนบเนียนและเรียงลำดับเหตุการณ์ได้ดีมากๆ ไม่อ่านแล้วรู้ว่าดำเนินเรื่องเร็วหรือช้าเกินไป อีกทั้งเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นก็ล้วนเข้าใจง่ายและสามารถประติดประต่อกันได้พอดีแบบเป๊ะๆแถมยังสมเหตุสมผลอีกด้วย
2.อย่างที่สองคือเรื่องตัวละคร วรรณกรรมชุดนี้ผู้เขียนสามารถเขียนคาร์แร็กเตอร์ของตัวละครต่างๆออกมาได้อย่างชัดเจนและยังเขียนให้เราเห็นทั้งด้านบวกและด้านลบของตัวละครนั้นๆหรือพูดง่ายๆคือเขียนได้‘สมจริงมาก’โดยเน้นให้ผู้อ่านสามารถสัมผัสตัวละครเหล่านั้นผ่านตัวหนังสือได้ไม่ยาก ยกตัวอย่างเช่น
-ซาบรีน่า
ตัวละครนี้เราชอบมาก(เพราะชีค่อนข้างนิสัยเหมือนเรา ฮาๆๆ) ด้านดีของเธอคือเป็นคนไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ
ฉลาดแต่ดื้อ หัวรั้น ไม่ชอบเชื่อฟังผู้ใหญ่(เห็นมั้ย
ไม่ทันไรด้านลบโพล่ล่ะ)แถมยังขี้โมโหและควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้ แต่ก็เป็นผู้นำที่ดี
ค่อนข้างเด็ดขาด กล้าหาญแถมยังซึนสุดๆ(หรือภาษาคนคือปากไม่ตรงกับใจ)
-ดาฟเน่
น้องสาวสุดต่างขั้วกับซาบรีน่าอย่างสิ้นเชิง เธอเป็นเด็กดี เชื่อฟังผู้ใหญ่มากๆ
มีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น มองโลกในแง่ดี ฉลาดพอๆกับพี่สาว ร่าเริงและเข็มแข็ง ควบคุมตัวเองได้ดีกว่าซาบรีน่ามากๆ
ด้านลบคือขี้งอนไปหน่อย 5555 แอบสปอยล์ว่างอนซาบรีน่าเกือบทุกเล่ม
นอกจากตัวละครที่ลุง Michael Buckly สร้างขึ้นมาเองแล้ว เขายังนำตัวละครหลักในเทพนิยายต่างๆที่เราคุ้นเคยกันอย่างดีมาดัดแปลงให้เข้ากับยุคสมัยและแน่นนอนเราสามารถสัมผัสพวกเขาได้อย่าง่ายดายเช่นกัน
ยกตัวอย่างเช่น
-สโนว์ไวท์(ใกล้ตัวสุดๆ) ในนิทานเธอเป็นสาวที่สามารถเข้ากับคนแคระได้ดี
หรือในที่นี้คือ เด็กๆ
เธอจึงมาเป็นคุณครูสาวสวยของโรงเรียนประถมได้อย่างไม่ต้องสงสัย
-ซินเดอเรล่า
สาวซินเคยมีปัญหาเรื่องครอบครัวมาก่อน(แน่ล่ะ โดนทั้งแม่เลี้ยงพี่เลี้ยงแกล้ง)
จึงไม่แปลกที่ในยุคปัจจุบันเธอจะมาเป็นนักจัดรายการวิทยุที่เชี่ยวชาญด้านปัญหาครอบครัว
-แอลเรียล เงือกน้อยของเรา นางยังเป็นเงือกค่ะ
แต่เป็นเงือกที่อ้วนฉุเพราะสามีนางหนีไปมีคนใหม่ ทำไมถึงเป็นแบบนี้!? เพราะ...ว่ากันว่าตอนจบฉบับเดิมที่
ฮันส์ คริสเตียน เอนเดอร์สันแต่งเงือกน้อยของเราไม่สมหวังในความรัก แล้วในปัจจุบันเวลาที่ผู้หญิงส่วนใหญ่อกหักจะชอบแก้ปัญหาโดยการกิน
ลุง Michael Buckly จึงนำตอนจบฉบับดั้งเดิมมาผสมกับเรื่องจริงในปัจจุบันจนได้เป็นเงือกน้อยสุดอ้วนอุดมสมบูรณ์ในปัจจุบัน
3.ต่อไปคือเรื่องข้อคิด
หนังสือชุดนี้บอกเลยว่ามีข้อคิดอยู่ทุกเล่ม! ทุกเล่มจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการสอนให้เรารู้จักยับยั้งอารมณ์และควบคุมตัวเอง
สอนให้เรารู้จักไม่ยอมแพ้และใช้สมองก่อนใช้กำลัง ฯลฯ ทุกอย่างล้วนนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้หมด
แต่ที่เห็นได้ชัดที่สุดคงจะเป็นการที่สองสาวใช้ทักษะที่เคยใช้ในการหนีออกครอบครัวอุปถัมภ์ใจร้ายค่ะ(ถ้าเราเจอแบบนี้เราก็หนีค่ะแต่ล่ะบ้าน
เพี้ยนๆทั้งนั้น)คือหลังจากที่พ่อแม่ของพวกเธอถูกตัดสินว่าหายสาบสูญทั้งสองก็ไปอยู่สถานสงเคราะห์และถูกสถานสงเคราะห์ส่งตัวไปอยู่ครอบครัวอุปถัมภ์และเมื่อครอบครัวอุปถัมภ์พวกนั้นเริ่มทรมานพวกเธอตั้งแต่เมื่อไรพวกเธอก็จะเริ่มคิดวิธีและหนีออกจากครอบครัวพวกนั้นให้เร็วที่สุด
ซึ่งทักษะในการหนีเอาตัวรอดพวกนี้แหละค่ะที่ผู้เขียนชอบเอามาให้พวกเธอได้ใช้ในการช่วยการสืบคดีถ้าสังเกตดีๆผู้เขียนชอบใช้มุกนี้มากมายคือ
ซาบรีน่าจะชอบบอกดาฟเน่ว่ “จำได้มั้ยจากบ้าน...ที่เราหนีแบบ...กันน่ะ”แล้วทั้งสองก็จะรอดจากพวกผู้ร้ายทุกที มันเป็นเหมือนการ“พลิกวิกฤตให้เป็นชัยชนะ” น่ะค่ะ คือเราได้เรียนรู้อะไรจากประสบการณ์เลวร้าย(เปรียบเหมือนวิกฤตในชีวิต)ของเราแล้วนำประสบการณ์เหล่านั้นมาไตรตรองให้ดีเพื่อนำไปปรับใช้กับชีวิตและทำให้ชีวิตของเราประสบความสำเร็จ(เปรียบเป็นการหนีรอดออกมาสู่หนทางแห่งชัยชนะ)
เป็นอะไรที่สุดยอดมากค่ะ
4.เรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัวค่ะ
ทั้งย่าเรลด้า ซาบรีน่า ดาฟเน่ ฯลฯ ทุกคนล้วนช่วยเหลือกันเท่าที่ช่วยได้ค่ะ
เราจะเห็นได้ชัดที่สุดเช่น...ตัวเอกของเราเลย ซาบรีน่าและดาฟเน่สองสาวนี้แม้จะนิสัยต่างกันสุดขั้ว
แต่พวกเธอก็ไม่เคยทิ้งกันค่ะ
แม้ดาฟเน่จะไม่ค่อยชอบนิสัยไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่ของพี่เธอนัก แม้ซาบรีน่าจะไม่ชอบนิสัยไม่เชื่อใจพี่สาวแท้ๆของดาฟเน่
แต่ทั้งสองก็ไม่เคยทิ้งกันแน่นอนเพราะพวกเธอถือว่าพวกเธอเป็นพี่น้องแท้ๆกัน
พวกเธอมีกันและกันจากเล่ม6แม้ซาบรีน่าเกือบจะถูกหมาป่ากลืนกินแต่ดาฟเน่ก็ยังเชื่อใจว่าพี่เธอสามารถควบคุมตัวเองได้ทั้งๆที่ยังโกรธกันอยู่
เป็นสายสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องที่ดีมาก
คุณเคนิสก็เหมือนกันนะแม้ดาฟเน่จะรู้ว่าเขาเป็นหมาป่าใจร้ายแต่เธอก็ยังรักและเคารพในตัวเขา(อันนี้เราปลื้มมากๆ)
ซาบรีน่าก็เช่นกัน แม้ตอนแรกเธอจะไม่ไว้ใจเขาเท่าไรตอนที่รู้ว่าเป็นหมาป่าแต่พอผ่านไปเธอก็เชื่อใจเขามากขึ้น
5.สุดท้ายคือเรื่องความบันเทิงค่ะ
วรรณกรรมชุดนี้แม้จะเป็นแนวแฟนตาซี อัดแน่นไปด้วยเนื้อเรื่องและปมที่เข้มข้นแต่ลุง
Buckly
ก็ยังไม่ทิ้งเรื่องความบันเทิงจริงๆ Michael Buckly หยอดมุกฮาๆที่ทำให้ผู้อ่านขำตลอดเรื่องทั้งยังมีการให้ดาฟเน่พูดคำฮาๆน่ารักๆที่เธอคิดเองออกมาทุกเล่มอีกด้วย!